1244531total sites visits.

เลือกวัสดุมุงหลังคาและทรงของหลังคาแบบไหนดีเมื่อสร้างบ้าน

วัสดุมุงหลังคาและแบบหลังคาก่อนสร้างบ้าน

เลือกวัสดุมุงหลังคาและทรงของหลังคาแบบไหนดีเมื่อสร้างบ้าน

รู้จักความแตกต่างของวัสดุมุงหลังคาและแบบหลังคาก่อนสร้างบ้าน

สร้างบ้าน สักหลังนั้นนอกจากจะต้องคำนึงถึงความสวยงามอยู่แล้วสุขสบาย สิ่งหนึ่งที่คุณควรให้ความสำคัญไม่แพ้กันก็คือ หลังคา เพราะหลังคาเป็นสิ่งที่ช่วยปกป้องทั้งความร้อน ลม ฝนและแสงแดดให้กับคนที่อยู่ภายในบ้าน ฉะนั้น การเลือกวัสดุมุงหลังคานอกจากจะต้องคำนึงความแข็งแรงทนทานแล้ว ยังต้องพิจารณาเลือกวัสดุที่ช่วยป้องกันความร้อนได้ดีอีกด้วย ซึ่งในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักประเภทของวัสดุที่ใช้มุงหลังคา พร้อมกับทรงของหลังคาแบบไหนที่เหมาะกับสไตล์ของบ้านคุณ

ประเภทของวัสดุมุงหลังคาสำหรับการ “สร้างบ้าน” มีแบบไหนบ้าง?

  1. กระเบื้องหลังคาคอนกรีต : เหมาะกับการเป็นหลังคาบ้านสไตล์คอนเทมโพรารี หรือสไตล์บ้านแบบไทยๆ เป็นหลังคาที่มีส่วนผสมของปูนซีเมนต์ หิน ทรายและน้ำขึ้นรูปเป็นแผ่นลอน มีจุดเด่นคือความแข็งแรงทนทานและสามารถยึดเกาะติดกันได้อย่างแนบแน่น ทำให้น้ำซึมผ่านได้ยากจึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการรั่วซึม อีกทั้งยังมีต้นทุนในการก่อสร้างไม่สูงเหมือนวัสดุมุงหลังคาชนิดอื่น แต่ก็มีข้อเสียเรื่องที่มีนำ้หนักมาก ซึ่งหากคุณ สร้างบ้าน ใหม่จะต้องมั่นใจว่าโครงสร้างบ้านมีความแข็งแรงที่จะรับน้ำหนักหลังคาได้ทั้งหมด และหลังคาชนิดนี้กันความร้อนได้เพียงเล็กน้อย ฉะนั้น หากต้องการให้ตัวบ้านเย็นมากข้ึนก็อาจจะต้องปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่ออาศัยร่มเงาของต้นไม้บังแดดและความร้อนอีกทาง

  2. กระเบื้องหลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ : หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่ากระเบื้องลอนคู่ ผลิตจากปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ผสมกับเส้นใยสังเคราะห์ที่ไม่ก่อให้เกิดสารพิษ ซึ่งมีคุณสมบัติที่มีความยืดหยุ่น, เหนียวแน่นและแข็งแรงสูง แม้จะมีแผ่นที่บางและน้ำหนักเบาก็ตาม นอกจากนั้นสีและดีไซน์ยังมีความทันสมัยกว่า จึงทำให้เหมาะกับบ้านในปัจจุบันเกือบทุกสไตล์ อีกทั้งยังสามารถป้องกันความร้อนได้ดีและราคาก็ไม่แพงอีกด้วย

  3. กระเบื้องหลังคาเซรามิก : กระเบื้องชนิดนี้ส่วนใหญ่จะนิยมนำมามุงหลังคาบ้านทรงปั้นหยาและการ สร้างบ้าน ร่วมสมัยทั่วไป เพราะมีคุณสมบัติที่โดดเด่นเรื่องความเรียบเนียนและมันวาว เพราะถูกเคลือบผิวเพื่อลดการซีดจางของสีหลังคาที่ต้องเผชิญกับแดด จึงทำให้ช่วยป้องกันความร้อนได้สูงกว่ากระเบื้องชนิดอื่น กระเบื้องหลังคาเซรามิกนั้นมีน้ำหนักเบา สามารถวางบนโครงหลังคาเดิมได้เลย (ในกรณีที่ปรับปรุงหรือซ่อมแซมบ้านใหม่) อีกทั้งยังดูแลทำความสะอาดได้ง่าย เพราะมีคราบสิ่งสกปรกเกาะติดได้ยากและเมื่อฝนตกก็ยังช่วยชะล้างสิ่งเหล่านั้นออกไปได้ง่าย

  4. กระเบื้องหลังคาดินเผา : เพราะความเป็นวัสดุดินเผาจึงทำให้มีกลิ่นอายของความดั้งเดิมและโบราณาแบบไทยๆ การ สร้างบ้าน โดยเลือกใช้กระเบื้องชนิดนี้จึงเหมาะสำหรับบ้านสไตล์ย้อนยุคอย่างบ้านเรือนไทย และข้อดีของกระเบื้องหลังคาดินเผานี้คือ เป็นวัสดุที่มีอัตาซึมน้ำต่ำ จึงลดการเกิดความร้อนสะสมภายในบ้านได้ทำให้บ้านที่อยู่อาศัยเย็นสบาย แต่ก็แนะนำให้คุณเลือกกระเบื้องแบบที่ซึมน้ำต่ำกว่า 6 เปอร์เซ็นต์ โดยเพิ่มคุณสมบัติกันน้ำ, กันการรั่วซึมและมีการเคลือบสารป้องกันเชื้อราด้วย

  5. กระเบื้องว่าว : เป็นกระเบื้องหลังคาที่ผลิตจากดินเผาอีกประเภทหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่ เพราะมีปัญหาเรื่องการรั่วซึมและน้ำที่ไหลย้อนไปที่รอยต่อระหว่างแผ่น อีกทั้งยังเป็นวัสดุที่อมน้ำ อมความชื้นและมีรูปร่างบิดเบี้ยว ซึ่งในปัจจุบันมีการปรับปรุงวิธีการผลิต โดยใช้ซีเมนต์และเครื่องจักรอัดไฮโดรลิกแรงสูง ตามด้วยการเคลือบมันเพื่อป้องกันความชื้นแทรกซึมลงไปในกระเบื้อง แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องการรั่วซึมได้อยู่ดี กระเบื้องชนิดนี้จึงไม่เป็นที่นิยมนำมา สร้างบ้าน มากเท่าไหร่

  6. กระเบื้องโปร่งแสง : เป็นวัสดุที่ทำจากใยแก้วและโพลีเอสเตอร์เรซิน เคลือบด้วยแผ่นฟิล์มพิเศษที่ช่วยป้องกันรังสี UV จากแสงแดด จึงสามารถช่วยไม่ให้เกิดความร้อนสะสม เป็นหลังคาแบบโปร่งแสงทำให้มีแสงสว่างลอดผ่านได้ไม่มืดทึบ มีน้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย ราคาถูก แต่ก็ไม่นิยมนำมาใช้มุงหลังคาบ้าน ส่วนใหญ่มักใช้ติดตั้งในโรงจอดรถ, ห้องครัวหรือระเบียง

  7. กระเบื้องหลังคาชิงเกิ้ล : แต่เดิมหลังคาประเภทนี้ทำมาจากวัสดุที่เป็นไม้ จึงไม่ค่อยมีความแข็งแรงทนทานมากเท่าไหร่ อีกทั้งยังมีปัญหามากมายอย่าง รั่วซึมง่าย, เป็นเชื้อราและไม่ทนไฟ จึงมีการเปลี่ยนมาเป็นวัสดุไฟเบอร์แล้วเคลือบด้วยยางมะตอย จึงทำให้แผ่นกระเบื้องชนิดนี้มีความแข็งแรงทนทานมากขึ้น อีกทั้งยังมีมิติที่สวยงามสามาระปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย ทั้งพื้นผิว สี เกรด และขนาด เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมมากในการ สร้างบ้าน ที่ต่างประเทศ แต่ไม่เหมาะกับสภาพอากาศของประเทศไทยที่เป็นเมืองร้อน เพราะอาจทำให้แผ่นชิงเกิลแตกได้

  8. กระเบื้องหลังคาเมทัลชีท : เป็นวัสดุโลหะผสมที่ถูกพัฒนาจากสังกะสี โดยเคลือบสารป้องกันสนิม ลดการกัดกร่อนและช่วยสะท้อนความร้อนออกไปได้ดีกว่าสังกะสี มีความแข็งแรงทนทาน น้ำหนักเบา มีรูปแบบและสีให้เลือกใช้ได้หลากหลาย ราคาไม่แพงและติดตั้งง่าย สามารถโค้งงอได้ตามต้องการ แต่ก็ยังมีข้อเสียอยู่บ้างเรื่องเสียงดังเวลาฝนตกหนักๆ

  9. กระเบื้องหลังคาสังกะสี : หลังคาประเภทนี้เคยได้รับความนิยมอย่างมากในอดีต เพราะมีความทนทานสามารถใช้งานได้นานหลายปี ดูแลรักษาง่ายแต่ก็มีข้อเสียเรื่องการเกิดสนิมได้หากเจอกับน้ำและความชื้นในหน้าฝน จึงเกิดรูรั่วได้ง่าย อีกทั้งยังอมความร้อนทำให้ภายในบ้านร้อนอบอ้าว
 

จะ “สร้างบ้าน” ควรเลือกหลังคาทรงไหนดี?

ความจริงแล้วทรงของหลังคาที่ใช้กันมีอยู่หลากหลายทรงนับสิบแบบ อาทิ หลังคาทรงมะนิลา (Manila Roof), หลังคาทรงโค้งกลม (Curved Roof), หลังคาหลายเหลี่ยม (Hexagonal and Octagonal Roof), หลังคาทรงโดม (Dome Roof), หลังคาสวิส (Gable Hip Roof), หลังคาสองชั้น (Monitor Roof), หลังคาแกมเบรล (Gambrel Roof) และหลังคามังซา (Mansard Roof) ฯลฯ แต่ที่นิยมสำหรับ สร้างบ้าน ของคนไทยนั้นจะนิยมเลือกทรงหลังคาประมาณ 6 แบบ ดังต่อไปนี้

  • หลังคาทรงจั่ว (Gable Roof) : นิยมใช้กับการ สร้างบ้าน สไตล์ร่วมสมัย สไตล์โมเดิร์น เป็นทรงหลังคาที่เกิดจากการนำด้านสูงของหลังคาเพิงหมาแหงนมาชนกันให้เกิดสันหลังคา มีลักษณะเป็นหน้าจั่วสามเหลี่ยมทอดยาวลงมาตลอดตัวหลังคา ทำให้ทั้งสองด้านลาดเอียงลงทำให้น้ำฝนไหลลงได้สะดวก แต่ก็ต้องดูองศาการลาดเอียงลงและทิศทางลมให้ดี เพราะหากฝนตกแล้วหันเข้าสู่จั่วบ้านจะทำให้น้ำฝนกระเด็นเข้าในบ้านได้ นั่นเอง

  • หลังคาทรงปั้นหยา (Hip Roof) : หลังคาทรงนี้ถูกพัฒนามาจากทรงจั่ว คือทั้งสี่ด้านลาดเอียงขึ้นไปชนกันจรดสันหลังคา สามารถกันแดดกันฝนได้ดีเหมาะกับสภาพภูมิอากาศของเมืองไทยที่มีทั้งหน้าร้อนและหน้าฝน แต่การก่อสร้างหลังคาปั้นหยาจะยุ่งยากกว่าหลังคาจั่ว เพราะมีรอยต่อของสันหลังคาหรือตะเข้สันมากกว่า ฉะนั้นหลังคาทรงนี้ที่มีความเรียบและร่วมสมัยจึงเหมาะกับการ สร้างบ้าน สไตล์โมเดิร์นหรือไทยร่วมสมัย

  • หลังคาทรงเพิงหมาแหงน (Lean-to Roof) : คือหลังคาที่มีการลาดเอียงเพียงด้านเดียว คล้ายกับหมาที่แหวนหน้าขึ้นจึงเรียกว่าทรงหมาแหงน นิยมทำแบบมีชายคายื่นออกมาเพื่อช่วยบังฝนและแดด ถือว่าเป็นทรงนิยมอย่างมากในการ สร้างบ้าน ของประเทศไทยเพราะติดตั้งง่ายและรวดเร็ว แต่ก็มีข้อเสียหากออกแบบความลาดเอียงไม่ดีอาจเกิดการรั่วซึมได้ ซึ่งควรติดตั้งให้ด้านที่ลาดเอียงหันไปหาแสงแดดหรือทิศที่มีฝนสาดจะดีที่สุด

  • หลังคาทรงแบน (Flat Roof) : เป็นหลังคาที่เปลือยแบนราบในระนาบเดียวกัน จึงเหมาะสำหรับบ้านสไตล์โมเดิร์น ข้อดีของหลังคาทรงนี้คือสามารถดูดซับความร้อนและรับน้ำฝนได้ดีหากสร้างให้มีความลาดเอียงเล็กน้อย เพื่อเทไปยังท่อระบายน้ำฝนบนหลังคา

  • หลังคาทรงปีกผีเสื้อ (Butterfly Roof) : อธิบายง่ายๆ ก็คือหลังคาทรงเพิงหมาแหนมาประกบกันคล้ายกับปีกของผีเสื้อที่กำลังกระพือ ข้อดีคือสามารถรองรับน้ำฝนได้ดีกว่าหลังคาประเภทอื่น ดีไซน์สวยสะดุดตา ทำให้การ สร้างบ้าน ของคุณดูโดดเด่นมีเอกลักษณ์ แต่จะต้องติดตั้งรางระบายน้ำเพิ่มเพราะอาจมีน้ำฝนไหลรวมกันตรงกลางทำให้เกิดการรั่วซึมได้

  • หลังคารูปทรงอิสระ (Free Form Roof) : เป็นหลังคารูปแบบใหม่ที่โชว์ชั้นเชิงของเทคนิคการก่อสร้างและวัสดุที่มีการปรับปรุงพัฒนาตลอดเวลาในปัจจุบัน ทำให้การสร้างหลังคาทรงอิสระนี้อาจมีทั้งรูปทรงโค้งเป็นคลื่นหรือมุมเหลี่ยมแบบเพชร ซึ่งจะทำให้การ สร้างบ้าน ของคุณมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างจากบ้านอื่น ถือเป็นความคิดสร้างสรรค์ของสถาปนิกและเจ้าของบ้านด้วยนั่นเอง

ทั้งหมดนี้คือวัสดุและรูปทรงของหลังคาบ้านที่มีให้คุณเลือกมากมาย ซึ่งแต่ละแบบแต่ละประเภทก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งานของผู้อยู่อาศัยเป็นหลัก ฉะนั้นหากคุณกำลังมองหาบริษัทที่จะมาทำหลังคาบ้านไม่ว่าจะเป็นการซ่อมแซมบ้าน หรือสร้างหลังใหม่ มีดีรับสร้างบ้าน มีแบบบ้านให้คุณเลือกมากมาย สร้างได้ตรงตามสเป็ค และส่งมอบงานให้ทันภายในกำหนดเวลากับราคาที่เหมาะสม พร้อมกับการรับประกันคุณภาพบ้านและบริการหลังการทำงานเสร็จอีกด้วย

ต้องการสร้างบ้านกับมืออาชีพติดต่อได้ที่ มีดี รับสร้างบ้าน 
https://mee-dee.co.th

โทร :  0-2540-3271, 080-6924142
แฟกซ์ 0-2540-3270
E-mail: nuchsam@hotmail.com
เวลาติดต่อ : จันทร์ ถึง เสาร์ เวลา 9.00 น. ถึง 18.00 น.