1221539total sites visits.

ข้อควรรู้และคำนึงถึงการถมที่ดินสำหรับสร้างบ้านก่อนสร้างบ้าน

รับสร้างบ้าน

ข้อควรรู้และคำนึงถึงการถมที่ดินสำหรับสร้างบ้านก่อนสร้างบ้าน

ข้อควรรู้และคำนึงถึงการถมที่ดินสำหรับสร้างบ้านก่อนสร้างบ้าน

การเตรียมที่ดินก่อนการสร้างบ้านเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานและกฎหมายกำหนด

การถมที่ดินสำหรับสร้างบ้าน เป็นขั้นตอนสำคัญในลำดับต้น ๆ ก่อนจะดำเนินการสร้างบ้านและอาคารในบริเวณที่ต้องการ เพราะที่ดินคือรากฐานอันแข็งแกร่งและมั่นคงให้กับตัวบ้านในระยะยาว ซึ่งในการถมที่ดินสำหรับสร้างบ้านมีรายละเอียดที่เจ้าของบ้านและที่ดินควรทราบและทำความเข้าใจก่อนดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นทั้งด้านของสภาพพื้นที่ที่มีอยู่เดิม ประเภทของดินที่ใช้ถมที่ ระยะเวลาดำเนินการ ไปจนถึงด้านตัวบทกฎหมายที่ดิน เพื่อให้ได้รับทั้งความคุ้มค่าและปลอดภัยในการถมที่ดินสำหรับสร้างบ้าน

ข้อมูลเบื้องต้นที่ควรรู้และคำนึงถึงเกี่ยวกับการถมที่ดินก่อนที่จะสร้างบ้าน มีดังนี้

    1. รู้จักสภาพแวดล้อมของบริเวณที่ต้องการถมที่ดินสำหรับสร้างบ้าน
      การถมที่ดินสำหรับสร้างบ้านมีวัตถุประสงค์หลักในการปรับระดับหน้าดินให้มีความสูงในระดับที่ต้องการ และเพื่อเตรียมที่ดินให้พร้อมรับกับการก่อสร้างบ้าน หรืออาคารตามแบบที่ต้องการ โดยที่สามารถรองรับน้ำหนักของบ้านและสิ่งปลูกสร้างได้และต้องไม่ก่อให้เกิดปัญหาบ้านหรืออาคารทรุดในภายหลัง ซึ่งปัจจัยที่ต้องพิจารณาเกี่ยวกับสภาพที่ดินที่จะทำการถมที่ดินสำหรับสร้างบ้าน ได้แก่

      • ตรวจสอบข้อมูลบริเวณพื้นที่ดินโดยรอบ
        ด้วยการประเมินดูลักษณะของพื้นที่ในด้านกายภาพ หลาย ๆ ปัจจัยมีผลกระทบกับการถมที่ดิน ไม่ว่าจะเป็นวิธีง่าย ๆ สังเกตได้ด้วยตาเปล่า อย่างเช่น การสังเกตภาพรวมว่าที่ดินบริเวณนั้นมีต้นไม้หรือพืชประเภทใดขึ้นอยู่ เช่น ต้นกระถินในบริเวณที่ดินแห้ง หรือพืชจำพวกต้นกก ต้นธูปฤาษี ที่จะขึ้นบนพื้นที่ดินแฉะและชื้น เป็นต้น
      • ตรวจสอบว่าพื้นที่มีน้ำท่วมหรือไม่
        ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมขังชั่วคราวจากฝนที่ตกลงมาครั้งคราว หรือน้ำท่วมในช่วงฤดูน้ำหลากหรือฤดูฝน โดยการสอบถามจากผู้ที่อยู่อาศัยบริเวณใกล้เคียง เพราะหากเป็นพื้นที่น้ำท่วมถึง จะได้ทราบข้อมูลว่าน้ำท่วมสูงประมาณไหน และใช้เวลานานเท่าไรกว่าที่น้ำจะแห้ง ซึ่งจะทำให้สามารถคำนวณว่าควรจะถมดินสูงเพิ่มอีกเท่าไรจึงจะเหมาะสม
      • ตรวจสอบประวัติของที่ดินย้อนหลัง
        เพื่อให้ทราบว่าบริเวณนั้นว่าเคยมีสภาพเป็นเช่นไรมาก่อนก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะบริเวณที่ดินบางแปลงอาจเคยเป็นบึงน้ำ บ่อปลา หรือบ่อทิ้งขยะ ฯลฯ แต่ได้รับการถมที่ดินจนดูเป็นผืนดินธรรมดาที่มีความสูงได้ระดับเมื่อเทียบเคียงกับพื้นที่ใกล้กัน ซึ่งหากจะมีการสร้างบ้านในบริเวณดังกล่าว ควรจะต้องแจ้งให้ผู้รับเหมาสร้างบ้านมีการเจาะสำรวจชั้นดินเพื่อตรวจสอบโดยละเอียด แล้วจึงวางแผนดำเนินการถมที่ดินสำหรับสร้างบ้านให้มีความแน่นเพียงพอ ป้องกันการเกิดปัญหาบ้านทรุดในอนาคตได้

    2. ระดับความสูงของการถมที่ดินสำหรับสร้างบ้าน
      เกณฑ์หลักที่จะใช้เป็นตัววัดในการถมที่ดินส่วนใหญ่ นั่นก็คือ ถนนที่เชื่อมต่อกับที่ดิน และอีกปัจจัยคือหากข้าง ๆ ที่ดินของคุณมีผู้อยู่อาศัยบ้านอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้ชิดติดกัน ก็ควรถมที่ดินให้มีระดับที่ใกล้เคียงกัน เพราะหากคุณถมที่ดินสูงกว่าบ้านข้าง ๆ มากเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหา เช่น การระบายน้ำจากที่สูงไปที่ต่ำซึ่งอาจจะลงไปที่บ้านของเพื่อนบ้าน เป็นต้นซึ่งการถมที่ดินมักจะถมให้สูงกว่าระดับถนนระหว่าง 50 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร ตามความเหมาะสมกับพื้นที่และการออกแบบบ้านของผู้รับเหมาสร้างบ้าน ซึ่งเมื่อเลือกความสูงที่ต้องการได้แล้ว อาจจะบวกเพิ่มอีกประมาณ 10-20 เซนติเมตร เพื่อรองรับกับดินที่อาจจะยุบตัวหลังจากการถูกบดทับปรับหน้าดินให้แน่นนั่นเอง

      หรือหากพื้นที่ของคุณอยู่ต่ำกว่าถนนหลักมาก การถมที่ดินให้สูงเท่าถนนอาจเป็นการลงทุนที่มากจนเกินไป ในจุดนี้ก็อาจต้องพิจารณาพึ่งพาด้านการออกแบบบ้านจากบริษัทรับสร้างบ้านให้เป็นดีไซน์ยกสูงที่เหมาะกับพื้นที่ก็อาจจะเป็นทางออกที่คุ้มค่ามากกว่า

    3. ประเภทของดินที่นิยมใช้ถมที่ดินสำหรับสร้างบ้าน
      โดยส่วนใหญ่จะเป็นดินธรรมชาติ ซึ่งมีให้เลือกหลายหลายประเภท เช่น

      • ดินถม เป็นดินที่หาได้ทั่วไปและมีราคาถูก จึงได้รับความนิยมในการถมเป็นฐานล่างของที่ดินเป็นหลัก แต่ไม่เหมาะกับการไปถมทำพื้นที่เพาะปลูก เพราะดินมีสารอาหารน้อย
      • ดินลูกรัง เป็นดินสีน้ำตาลแดงที่ได้มากจากการขุดภูเขา ค่อนข้างแห้งและแข็ง สามารถอัดให้แน่นได้ดีและเป็นที่นิยมเช่นกัน
      • ดินผสมทราย เนื่องจากเป็นดินที่มีราคาต้นทุนต่ำ จึงมักใช้ในการถมที่ดินขนาดใหญ่ ทำโครงการบ้านจัดสรร แต่ด้วยลักษณะหลักของทรายคือมีความร่วน ไม่อุ้มน้ำ และสึกกร่อนได้ง่าย หากไม่ผ่านการอัดที่แน่นพอก็อาจทำให้เกิดปัญหาการทรุดตัวตามมาได้
      • ดินดาน เป็นดินสีเหลืองคล้ายทราย แต่มีความหนาแน่นสูง เมื่อถมที่ดินและผ่านการบดอัดแล้วสามารถทำการสร้างบ้านหรือสิ่งปลูกสร้างได้ทันที
      • หน้าดิน เป็นส่วนของหน้าดินที่อาจได้มาจากพื้นที่ทั่วไป เช่น พื้นที่นาเก่า หรือดินจากการขุดบ่อ ขุดสระในพื้นที่ทำการเกษตร เป็นต้น เนื้อดินมีความสมบูรณ์ แต่เนื่องจากมีราคาสูงกว่าดินประเภทอื่น ๆ จึงนิยมนำใช้ถมในส่วนบนสุดของพื้นที่เพื่อรองรับการปลูกต้นไม้หรือจัดสวนได้ เป็นต้น

      นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ดินที่มีเศษหิน เศษอิฐที่อาจได้ปนตอนซื้อดิน เพราะแม้ว่าการผสมเศษอิฐจะมีราคาถูกกว่า หรือมาจากการรื้อทุบสิ่งปลูกสร้างเดิมที่อยู่บนที่ดิน แต่จะทำให้เนื้อดินที่ถมไม่แน่นพอ และทำให้เกิดปัญหาพื้นทรุดเป็นโพรงใต้บ้าน หรือเกิดปัญหาเสาเข็มที่ลงไว้ทรุดได้

    4. ช่วงเวลาที่เหมาะในการถมที่ดินสำหรับสร้างบ้าน และการเว้นระยะเวลาก่อนจะก่อสร้างบ้าน
      ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการถมที่ดินควรเป็นช่วงนอกฤดูฝน แน่นอนว่าช่วงที่ฝนตกจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของผู้รับเหมาสร้างบ้าน และหากเป็นไปได้ควรถมที่ดินก่อนถึงฤดูฝน เพราะหลังจากถมดินเสร็จแล้วเข้าสู่หน้าฝน น้ำฝนที่ตกลงมาจะซึมสู่พื้นดินทำให้สามารถเห็นระดับการยุบตัวของดินที่ถมได้ชัดเจนขึ้น และทำให้เนื้อดินแน่นขึ้นเมื่อหมดหน้าฝน พร้อมให้คุณดำเนินการสร้างบ้านได้ต่อไปและหลังจากที่ถมดินเรียบร้อยแล้ว ควรเว้นระยะเวลาเพื่อให้ดินมีความแน่นคงตัวก่อนที่จะเริ่มสร้างบ้าน เพื่อลดโอกาสเกิดการทรุดตัว ซึ่งอาจต้องใช้เวลาประมาณ 6-12 เดือน แต่สามารถใช้รถบดมาช่วยในการอัดหน้าดินให้แน่น ก็จะช่วยลดระยะเวลาในการรอให้ดินเซตตัวให้น้อยลงได้ แต่ด้วยหลาย ๆ ปัจจัยภายนอกที่อาจเป็นตัวแปรให้พื้นที่แต่ละแห่งใช้เวลาในการเซตตัวของดินที่ต่างกัน และเพื่อความแน่นอน ได้ผลที่ปลอดภัย แนะนำให้รับคำปรึกษาและตรวจสอบจากวิศวกรโยธา บริษัทรับสร้างบ้าน หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างบ้านโดยตรงจะดีที่สุด ตลอดจนเลือกใช้โครงสร้างแบบตอกเสาเข็มเป็นฐานในการสร้างบ้านร่วมด้วย ก็จะยิ่งทำให้มั่นใจในความแข็งแรงได้มากขึ้น

    5. การทำเรื่องขออนุญาตถมที่ดินสำหรับสร้างบ้าน
      โดยปกติแล้ว หากเป็นการถมที่ดินทั่วไป ที่มีขนาดของพื้นที่ไม่เกิน 2,000 ตารางเมตร สามารถดำเนินการได้ทันที แต่หากพื้นที่เกินกว่านี้ จะต้องทำเรื่องต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น ณ สำนักงานต่าง ๆ ในพื้นที่นั้น ๆ ตามที่ ประมวลกฎหมายพระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ. 2543 กำหนดแต่แม้ว่าการถมที่ดินเพื่อการสร้างบ้านหรือเตรียมพื้นที่สำหรับกิจการต่าง ๆ จะไม่ต้องแจ้งทางการ เจ้าของพื้นที่ก็อาจมีการแจ้งกับเพื่อนบ้านหรือผู้ที่อาศัยอยู่ละแวกใกล้เคียงได้ทราบ ว่าจะมีการดำเนินการการถมที่ดินสำหรับสร้างบ้าน เพราะอาจมีผลกระทบทางด้านการสัญจร ฝุ่นละออง หรือเสียงจากการทำงานที่ส่งผลกระทบต่อผู้อยู่อาศัยบริเวณนั้นได้ ดังนั้น หากสามารถแจ้งเกี่ยวกับระยะเวลาในการดำเนินการล่วงหน้าเพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับทราบและเตรียมตัว ก็จะช่วยลดปัญหาหรือความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นได้

หลังจากเตรียมการถมที่ดินสำหรับสร้างบ้านเสร็จเรียบร้อยตามมาตรฐาน ก็พร้อมให้คุณดำเนินการสร้างบ้านที่สวยงามน่าอยู่ และหากคุณกำลังมองหาบริษัทรับสร้างบ้านลงบนพื้นที่หรือที่ดินของคุณเอง ทาง บริษัท มีดี รับสร้างบ้าน จำกัด พร้อมให้บริการออกแบบและสร้างบ้านให้คุณตามต้องการ เรามีแบบบ้านเลือกมากมาย หลากหลายสไตล์ หลายราคา และมีทีมงานมืออาชีพพร้อมให้บริการรับเหมาสร้างบ้านแบบครบวงจร ตั้งแต่เริ่มต้นให้คำปรึกษา ดูหน้างาน งานออกแบบและเขียนแบบ ไปจนถึงการดูแลความเรียบร้อยตลอดระยะเวลาการสร้างบ้านจนแล้วเสร็จ ไม่ทิ้งงาน พร้อมการรับประกันโครงสร้างยาวนานถึง 10 ปี ตลอดจนบริการยื่นสินเชื่อ เพื่อให้คุณมีบ้านที่ทั้งสวยงามถูกใจ อยู่สบาย และมีคุณภาพ

สนใจสอบถามรายละเอียดบริการสร้างเพิ่มเพิ่มเติมได้ที่
https://mee-dee.co.th

โทร :  0-2540-3271, 080-6924142
แฟกซ์ 0-2540-3270
E-mail: nuchsam@hotmail.com
เวลาติดต่อ : จันทร์ ถึง เสาร์ เวลา 9.00 น. ถึง 18.00 น.